สมาชิกในกลุ่ม
ประวัติส่วนตัว
1.นางสาว ณัฐธิดา กับรัมย์ เลขที่ 16
- ชื่อนุ่น อายุ 17 ปี
- ชอบสีฟ้าาาา
- อาหารที่ชอบ ข้าวผัด
- อนาคตอยากเป็นครูสอนภาษา
2.นางสาว ทัดดาว ยาเพ็ชร เลขที่ 17
- ชื่อแตงโม อายุ 17 ปี
- ชอบสีชมพู
- อาหารที่ชอบ ข้าวกระเพราหมูกรอบ
- อนาคตอยากเป็นครูสอนศิลปะ
3.นางสาว ทิพวรรณ กรุกรัมย์ เลขที่ 18
- ชื่อจอย อายุ 18 ปี
- ชอบสีชมพู
- อาหารที่ชอบ ข้าวผัดคะน้าหมูกรอบ
- อนาคตอยากเป็นครู
4.นางสาว ปนัดดา พงษ์ธนู เลขที่ 19
- ชื่อน้ำอ้อย อายุ 18 ปี
- ชอบสีฟ้า
- อาหารที่ชอบ ยำยอ
- อนาคตอยากเป็นครู
5.นาวสาว สุภาพร ทะนวนรัมย์ เลขที่ 26
- ชื่อหนิง อายุ 17 ปี
- ชอบสีฟ้า
- อาหารที่ชอบ ยำไก่
- อนาคตอยากเป็นครูคณิตศาสตร์
6.นางสาว อนุสรา ป้องภัย เลขที่ 30
- ชื่อเอิร์น อายุ 17 ปี
- ชอบสีชมพู
- อาหารที่ชอบ ไก่ทอด
- อนาคตอยากเป็นครูภาษา
โครงงานการทำดอกไม้จันทน์
ประวัติความเป็นมาของดอกไม้จันทน์
ประวัติความเป็นมาสมัยก่อนในการจัดทำพิธีฌาปนกิจศพ
มีธรรมเนียมการใช้ดอกไม้จันทน์ควบคู่กับธูปทองและเทียนทอง
เพราะเชื่อว่ากลิ่นหอมของดอกไม้จันทน์จะนำดวงวิญญาณของผู้ที่ล่วงลับไปสู่สรวงสวรรค์
บ้างก็ว่า เนื่องมาจากในสมัยก่อนนั้นเรายังไม่มีการฉีดยา
หรือวิธีการที่จะรักษาศพไม่ให้มีกลิ่นเหม็น ดังนั้น ในการเผาศพ
จึงต้องใช้ดอกไม้จันทน์ซึ่งทำมาจากไม้จันทน์ หรือต้นจันทน์
อันเป็นไม้ที่มีกลิ่นหอม
ซึ่งในสมัยก่อนจะนิยมใช้ไม้จันทน์เฉพาะในงานศพของราชวงศ์ชั้นสูงเท่านั้น
ต่อมาในสมัยรัชกาลที่ 5 เนื่องจากดอกไม้จันทน์เริ่มหายากขึ้น
จึงมีผู้คิดค้นประดิษฐ์ดอกไม้จันทน์เทียม โดยการนำไม้จันทน์มาทำเป็นแผ่นบาง ๆ
นำมาเข้ารูปลักษณะคล้ายดอกไม้ชนิดต่าง ๆ แต่รวมเรียกว่า ดอกไม้จันทน์
ใช้ในงานพิธีหลวง ต่อมาจึงแผ่ขยายการใช้ดอกไม้จันทน์เทียมในหมู่สามัญชน
จึงเริ่มมีธรรมเนียมการใช้ในหมู่สามัญชน เริ่มธรรมเนียมการใช้ตั้งแต่นั้นมา
โดยแขกที่มาร่วมงานจะนำดอกไม้จันทน์ไปวางไว้ที่พานหน้าโลงศพ เป็นการเผาหลอกก่อน
แล้วจึงนำดอกไม้จันทน์ทั้งหมดไปใช้ในการเผาจริงอีกครั้ง
ต่อมาไม้จันทน์ที่ใช้ทำดอกไม้จันทน์หายากจนแทบหาไม่ได้เลย
จึงเปลี่ยนไปใช้วัสดุอย่างอื่นแทน เพราะหาง่ายและมีราคาถูก แต่แก่นแท้ของธรรมเนียมการใช้ดอกไม้จันทน์ก็ยังไม่เปลี่ยนไป
ดอกไม้จันทน์แบบทั่วไปที่นิยมใช้กันมาเป็นแบบธรรมดาส่วนใหญ่ทำเป็นรูปดอกกุหลาบ
ดอกแก้ว มีขั้นตอนการทำที่ไม่ยุ่งยาก และมีสีสันตายตัวคือ สีขาว สีครีม หรือสีดำ แต่ในยุคปัจจุบันด้วยภูมิปัญญาชาวบ้านที่สร้างสีสันต่าง
ๆ ของดอกไม้จันทน์ ทำให้ดอกไม้จันทน์มีความแปลกในรูปแบบ สีสันที่เปลี่ยนไป
ทำให้ทัศนคติของคนที่นำไปใช้มีความรู้สึกว่า การใช้ดอกไม้จันทน์เพื่อเป็นการเคารพ
ระลึกถึงผู้ล่วงลับ ไม่มีบรรยากาศของความโศกเศร้าเพียงอย่างเดียว
ความเชื่อที่เกี่ยวข้องไม้จันทน์
เป็นไม้ชนิดหนึ่งที่เชื่อว่าเป็นไม้สูงศักดิ์ มีคุณค่า หายาก
จึงมีการนำไม้จันทน์มาเป็นส่วนหนึ่งของการประกอบพิธีศพ
โดยอาจจะเป็นส่วนหนึ่งของหีบศพหรือโลงศพ เป็นฟืนที่ใช้เผาศพ ต่อมาไม้จันทน์มีน้อย
หายากหรือแทบหาไม่ได้เลย จึงนำไม้จันทน์มาเป็นส่วนในการประกอบพิธีเพียงเล็กน้อยเท่านั้นก็ได้เพราะอย่างน้อยก็ยังได้ชื่อว่ามีไม้จันทน์ในการประกอบพิธีในครั้งนั้น
ๆ ปัจจุบันไม้จันทน์ หายากมากจนแทบหาไม่ได้เลย
จึงมีการนำไม้ชนิดอื่นมาทดแทนและประดิษฐ์ในรูปของดอกไม้ประดิษฐ์เป็นสิ่งทดแทนเพื่อให้สะดวกต่อการใช้งาน
เรียกว่า ดอกไม้จันทน์
ตามคติความเชื่อของคนไทยพุทธแต่โบราณ
ถือว่าการจัดงานฌาปนกิจศพให้คนตาย เป็นการแสดงความเคารพ และไว้อาลัยครั้งสุดท้าย
ทุกสิ่งที่จัดทำจะต้องประณีตและดีที่สุดเท่าที่ฐานะจะเอื้ออำนวย
เพราะเชื่อว่าผู้ตายจะได้ไปสู่สุขคติและเมื่อเกิดใหม่ก็จะพบแต่สิ่งที่ดีงาม
มีการสันนิษฐานว่าราวๆ ประมาณ ๑,๕๐๐ ปีก่อน มนุษย์ยังไม่มีการฉีดยาศพ หรือฉีดฟอร์มาลีน
และวิธีการที่จะรักษาศพไม่ให้มีกลิ่นเหม็น ดั้งนั้นในการประกอบพิธีฌาปนกิจศพ
จึงใช้ไม้จันทน์มาเป็นส่วนในการประกอบพิธี เพื่อบรรเทากลิ่นศพ
ประโยชน์ของดอกไม้จันทน์
จะใช้ไหว้หรือเคารพผู้ที่ล่วงลับแล้ว
สำหรับสาเหตุที่นำดอกไม้จันทน์มาใช้ในพิธีเผาศพ
เนื่องมาจากในสมัยก่อนนั้นเรายังไม่มีการฉีดยาศพ
หรือวิธีการที่จะรักษาศพไม่ให้มีกลิ่นเหม็น ดังนั้น ในการเผาศพ
จึงต้องใช้ดอกไม้จันทน์ซึ่งทำมาจากไม้จันทน์ หรือต้นจันทน์
อันเป็นไม้ที่มีกลิ่นหอม
ซึ่งในสมัยก่อนจะนิยมใช้ไม้จันทน์เฉพาะในงานศพของราชวงศ์ชั้นสูงเท่านั้น
เนื่องจากไม้จันทน์หายากและมีราคาแพง
ต่อมากรมพระยาดำรงราชนุภาพจึงได้คิดค้นให้ใช้ไม้จันทน์ทำเป็นแผ่นบางๆ
มัดเป็นช่อเรียกว่าดอกไม้จันทน์เพื่อให้ผู้ที่มาร่วมงานศพได้นำไปวางที่เผาศพและนิยมใช้จนถึงปัจจุบัน
อุปกรณ์ในการทำดอกไม้จันทน์
1.
กระดาษย่น
2. กรรไกร
3. ด้าย
4. เทปพันก้าน
5. ไม้เสียบลูกชิ้น
6. ไม้จันทน์
8. ธูป ที่ตัดไว้เรียบร้อยแล้ว
9. เทียน
ที่ตัดไว้เรียบร้อยแล้ว
วิธีการทำ
1.
เตรียมไม้เสียบลูกชิ้นมาทำเป็นก้าน
จากนั้นนำกระดาษย่นมาม้วนทำเกสร แล้วนำด้ายมาพันให้แน่น
2. นำกระดาษย่นมาทำเป็นกลีบ
จนครบ 5
กลีบ รวมกับเกสร
3. นำไม้จันทน์ มาใส่ติดกับก้าน แล้วนำด้ายมาพันให้แน่น
4. นำเทปพันก้าน มาพันรอบๆ ก้าน
5. จากนั้นนำ ธูป และเทียน ที่ตัดไว้
มาใส่ด้านล่างของก้าน และตัดตกแต่งให้เรียบร้อย
6. ก็จะได้ดอกไม้จันทน์ที่เสร็จสมบูรณ์
ที่มา